วันอังคารที่ 26 สิงหาคม พ.ศ. 2557

บันทึกอนุทิน ครั้งที่ 3

วิชา การจัดประสบการณ์ทางวิทยาศาสตร์สำหรับเด็กปฐมวัย
ครูผู้สอน อาจารย์จินตนา สุขสำราญ
วันอังคารที่ 26 สิงหาคม พ.ศ.2557
เวลาเรียน 08.30 - 12.20 น.
สิ่งที่ได้รับในวันนี้

อาจารย์ได้เปิดบล็อกของแต่ละคนดูแล้วได้ให้คำแนะนำในการทำบล็อกของ
แต่ละคนฟังและได้ให้เพื่อนออกไปนำเสนอบทความของตัวเอง 5 คนแรก

          บทความที่ 1 โดย (นางสาวกมลวัลย์ นาควิเชียร)          
         เรื่องวิทยาศาสตร์และการทดลอง

    เด็กปฐมวัยเป็นวัยมีความอยากรู้อยากเห็นสิ่งแวดล้อมที่อยู่รอบๆตัวเราตลอด
  เวลาทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ เป็นทักษะที่ส่งเสริมให้เด็กปฐมวัยให้มีสามารถคิดหา
 เหตุผล แก้ปัญหาได้ ตามวัยของเด็กควรจัดกิจกรรมให้เด็ก ได้ลงมือกระทำด้วยตนเอง
จากสิ่งแวดล้อมรอบ ๆ ตัว    ทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ 
อันเป็นกระบวนการขั้นพื้นฐานหรือทักษะเบื้องต้นที่ควรส่งเสริมให้เด็กปฐมวัย
 ได้รับการพัฒนา มี 7 ทักษะกระบวนการ คือ


บทความที่ 2 โดย (นางสาวศิรดา สักบุตร)

         เรื่่องภาระกิจตามหาใบไม้

     กิจกรรมบูรณาการที่ให้เด็กๆได้ฝึกการสังเกตและวาดภาพใบไม้ 
ต่อยอดสู่การเรียนรู้เรขาคณิตจากรูปทรงของใบไม้ 
ตลอดจนช่วยกันคิดค้นเทคโนโลยีในการพิมพ์ลายใบไม้ให้เป็นศิลปะบนผืนผ้าอย่างง่ายๆ
 “เดิมเด็กไม่ได้ลงมือปฏิบัติก็ไม่ค่อยสนใจเรียน เสียสมาธิง่าย อีกอย่างเด็กอนุบาลที่นี่เป็นเด็กชาว
เขา 100% ครูก็สื่อสารยากเพราะไม่เข้าใจภาษาถิ่น เด็กก็ไม่เข้าใจภาษาไทย ต้องมีครูภาษาถิ่นเข้ามา
ช่วย โชคดีที่มีเด็กบางคนรู้ทั้งสองภาษาก็จะช่วยเพื่อน บางทีก็ช่วยครูด้วยเหมือนกัน” ครูโสรดา 
พลเสน คุณครูอนุบาล 2/1 เล่าให้ฟังถึงปัญหาที่ผ่านมา
       “แต่พอนำเอาวิธีการสอนของ สสวท.มาใช้ เราก็บูรณาการวิชาภาษาไทยเพิ่มเข้าไปอีกหนึ่งวิชา 
ทำให้เด็กๆ มีปฏิสัมพันธ์กับครูมากขึ้น กระตือรือร้น กล้าคิด กล้าแสดงออกมากกว่าเดิมที่ต้องรอ
ให้ครูบอกเพียงอย่างเดียว”

บทความที่ 3 โดย (นางสาวศิริพร พัดลม)                           
เรื่องเรียนรู้วิทย์แบบบูรณาการฉบับเด็กชายขอบ
แม่ละเมา...เขาชวนล่องแก่ง
       อีกหนึ่งกิจกรรมการเรียนรู้ของเด็กชายขอบให้สามารถ “ล่องแก่งอย่างไรให้ปลอดภัย” 
ซึ่งสอนเด็กๆ รู้จักและเรียนรู้ถึงประโยชน์อุปกรณ์ที่ใช้ในการล่องแก่ง เช่น ไม้พาย 

หมวกกันน็อก เสื้อชูชีพ และวิธีการล่องแก่งที่ปลอดภัย จากการสังเกต 
คิดวิเคราะห์ด้วยตัวเอง ซึ่งไม่เพียงเป็นการสอดแทรกความรู้ทางวิทยาศาสตร์
 คณิตศาสตร์ และศิลปะแล้ว ยังปลูกฝังแนวทางท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ 
และรักในถิ่นเกิดของตนเอง ก่อนทำกิจกรรม เราจะมาประชุมกันก่อนเพื่อสรุปว่า 
กิจกรรมแต่ละชุด เด็กจะต้องเรียนรู้คำ
สำคัญหรือคีย์เวิร์ดอะไรบ้าง ทุกฝ่ายจะได้เข้าใจตรงกันและดำเนินกิจกรรมไปในทิศทาง
เดียวกัน” ครูพัชรากล่าว แม่ครูทัศวรรณ ปู่ลมดี ผู้ปกครองจิตอาสาในเครือข่าย
พ่อครู-แม่ครูท่านหนึ่ง ยืนยันว่า การที่พ่อแม่ร่วมดูแลเด็กอย่างใกล้ชิด ทำให้รู้ว่า ลูกเรา
มีความบกพร่องหรือด้อยในด้านใด ที่สำคัญคือ พ่อแม่ได้ตระหนักว่า จะปล่อยให้การเรียน
รู้ของเด็กๆ เป็นภาระของครูทั้งหมด
ไม่ได้ เพราะเวลาของเด็กส่วนใหญ่นั้นอยู่ที่บ้าน จึงเป็นเรื่องดีที่โรงเรียน พ่อแม่ และชุมชน 
จะมาช่วยกันหาวิธีการศึกษา หรือช่วยกันตอกย้ำซ้ำทวนสิ่งที่เด็กๆ ได้เรียนรู้มา 
ซึ่งเราสัมผัสได้เลยว่า เด็กมีพัฒนาการดีขึ้นมาก ครอบครัวก็อบอุ่นเพราะได้ใช้เวลาร่วม
กันมากขึ้น “ตอนนี้เริ่มมีเสียงเรียกร้องจากเด็กปฐมวัยให้จัดการเรียนการสอนแบบนี้ 
เมื่อเขาขึ้นสู่ระดับประถมและมัธยมศึกษา ซึ่งเราคงเริ่มที่ระดับประถมศึกษาก่อน 
ถ้าหาก สสวท. สามารถขยายกิจกรรมลักษณะนี้ไปจนถึงประถมศึกษา 3 เท่า
กับเด็กจะมีเวลาฝึกฝนกระบวนการคิดวิเคราะห์ถึง 5 ปี ซึ่งน่าจะเป็นระยะเวลา
ที่เหมาะสมพอในการปลูกฝังเด็กให้เป็นคนมีจิตวิทยาศาสตร์
 ที่ติดตัวไปกระทั่งโตเป็นผู้ใหญ่ หรือเด็กบางคนอาจกลายเป็นนัก
วิทยาศาสตร์รุ่นใหม่ของประเทศก็เป็นได้” ผอ.ทองสุข สรุปทิ้งท้าย

บทความที่ 4 โดย (สาวศิริวรรณ กรุดเนียม)
เรื่องวทยาศาสตร์สำหรับเด็กปฐมวัย

การแยกประเภทเมล็ดพืช
แนวคิดเมล็ดพืชมีความแตกต่างกันในด้านขนาดรูปร่าง สี 
และความหยาบละเอียดของผิวนอกเมล็ด
วัตถุประสงค์หลังจากที่ได้ทำกิจกรรมนี้แล้วเด็กสามารถ   
1. แยกประเภทของเมล็ดพืชได้อย่างน้อย 2 ลักษณะ             
2. เกิดความคิดรวบยอดเกี่ยวกับความแตกต่างกันของเมล็ดพืชในด้านขนาด รูปร่าง สี
 และความหยาบละเอียดของผิวนอกเมล็ด
วัสดุอุปกรณ์             
1. เมล็ดพืชชนิดและขนาดที่แตกต่างกันในด้านขนาด รูปร่าง สี และความหมาย
 ละเอียด เช่น เมล็ด ถั่วเขียว ถั่วดำ ถั่วแดง ข้าวเปลือก น้อยหน่า มะละกอ ชมพู่ ฝรั่ง มะขาม   
2. ถาด หรือฝากล่องกระดาษสำหรับแยกเซตของเมล็ดพืช            
3. ภาชนะสำหรับใส่เมล็ดพืช (อาจจะใช้ถ้วยพลาสติก ชาม กระทง หรือขันก็ได้)
กิจกรรม             
1. จัดเมล็ดพืชทุกประเภทที่สามารถหามาได้โดยผสมกันแล้วแบ่งใส่ภาชนะเพื่อแจกให้กับเด็ก
ทุกคนโดยครูยังไม่ต้องให้คำแนะนำใด ๆ ทั้งนั้น ปล่อยให้เด็กเล่นกับเมล็ดพืช
ตามลำพัง            
 2. หลังจากนั้นสักครูหนึ่งบอกให้เด็กแยกประเภทของเมล็ด ขณะที่เด็กทำ
กิจกรรมอยู่ครู
เดินดูรอบ ๆ และอภิปรายกับเด็กแต่ละคนว่าแยกประเภทของเมล็ดพืชได้อย่างไร

 หรือเพราะเหตุใดเขาจึงแยกในลักษณะนั้น             
3. ส่งเสริมให้เด็กแยกประเภทของเมล็ดพืชในลักษณะใหม่ที่ไม่ให้ซ้ำกับแบบเดิมที่เขา
ได้ทำไว้ครั้งแรก โดยถูกต้อง ไม่แนะนำใด ๆ ทั้งสิ้น             
4. อภิปรายเกี่ยกวับวิธีการที่เด็กแต่ละคนแยกประเภท โดยอาจจะให้เด็กเดินดูของ
 เพื่อนคนอื่น ๆ ว่าเขาทำกันอย่างไร หลังจากนั้นครูควรตั้งคำถามเด็กว่า“ทำไมจึงใส่เมล็ดพืช
เหล่านั้นรวมอยู่ในกองเดียวกัน”“ นักเรียนว่ามีวิธีการอื่นอีกไหมที่จะจัดเมล็ดพืชมาอยู่กอง
เดียวกัน”“นักเรียนสามารถจะเอาเมล็ดพืชที่ครูแจกให้นั้นมาแยกเป็น 2 กลุ่มได้ไหม”

    บทความที่ 5 โดย  (นางสาวขวัญฤทัย ใยสุข)
    เรื่องการเป่าลูกโป่ง

วันนี้เพื่อนหาเนื้อหามาไม่ตรงกับที่อาจารย์สั่ง สิ่งที่เพื่อนหามาไม่ใช่บทความ
 เป็นแค่วิธีการทดลองวิทยาศาสตร์
 แต่อาจารย์ก็ให้โอกาสเพื่อนได้ออกไปรายงานในส่วนที่เตรียมมา 
เรื่องนี้เป็นวิทยาศสตร์โดยการนำเอาศิลปะมาประยุกต์ใช้ในการบูรณาการในการเรียนวิชานี้คือ
 การตัดกระดาษเอามาแป๊ะลูกโปร่งตามจินตนาการให้สวยงาม


อาจรย์ได้สอนและอธิบายใน PowerPoint 
- คุณลักษณะตามวัยของเด็กปฐมวัย
- ธรรมชาติของเด็กปฐมวัย
- หลักการ/แนวคิดสู่การปฏิบัติการพัฒนาเด็กปฐมวัย

กิจกรรมที่ได้ทำในวันนี้
อาจารย์ได้เขียน map  สรุปองค์ความรู้ที่ได้รับในวันนี้ลงใส่ในกระดาษ A4

















*** สิ่งที่อาจย์เสนอแนะคือ ให้จัดรัเบียบการทำ map ให้ดี


ประเมินตนเอง  

แต่งกายเรียบร้อย  ตั้งใจฟังและจดบันทึกในสิ่งที่อาจารย์สอน 

ประเมินเพื่อน  

แต่งกายเรียบร้อย  ตั้งใจเรียนทุกคน

ประเมินอาจารย์

สอนและอธิบายเรื่องต่างๆได้อย่างเข้าใจ ฝึกให้เราคิดด้วยตัวเอง 

บันทึกอนุทิน ครั้งที่ 2

วิชา การจัดประสบการณ์ทางวิทยาศาสตร์สำหรับเด็กปฐมวัย
ครูผู้สอน อาจารย์จินตนา สุขสำราญ
วันอังคารที่ 19 สิงหาคม พ.ศ.2557
เวลาเรียน 08.30 - 12.20 น.

สิ่งที่ได้รับในวันนี้

อาจารย์ได้เปิด Power Point ที่มีรูปภาพทั้งหมด 4 รูปภาพ และบรรยายรูปภาพไปพร้อมๆกัน
ว่าแต่ละภาพสื่ออะไรเกี่ยวกับวิทยาศาสตตร์
***วิทยาศาสตร์คือสิ่งที่อยู่รอบๆตัวเรา

ภาพที่ 1 (เด็กปลอกไข่)
ปลอกไข่ >>>  เป็นเครื่องมือวิทยาศาสตร์ คือ เด็กใช้มือในการปลอกไข่เป็นการลงมือด้วยตนเอง เด็กได้ลงมือทำผ่านประสามสัมผัสทั้ง 5 า -ดู    หู - ฟัง   ลิ้น- ชิม   กาย  - สัมผัส   จมูก - สูดดมการ
ตีไข่ >>> เป็นการทดลอง
ไข่ผสมกัน >>> การเปลี่ยนแปลง
เมื่อเด็กปลอกไข่ ตีไข่ให้ไข่ขาวกับไข่แดงผสมกันเด็กก็จะรู้ว่ามันจะเกิดอะไรขึ้น >>> การสังเกต

ภาพที่ 2 (เด็กนั่งตำครก)
ภาพนี้เป็นการสอนวิทยาศาสตร์สำหรับเด็กปฐมวัยคือ เป็นการสอนชีวิะ ฟิสิกส์ โดยใช้ให้เด็กเป็นประสบการณ์ในการได้ลงมือทำจริง

ภาพที่ 3 (การปลูกพืช)
เป็นการสอนวิทยาศาสตร์ให้กับเด็กโดยให้เด็กทำผ่านประสบการณ์ตรง คือ การให้เด็กพรวนดินเพื่อให้ดินมันร่วนพรุ่น เพื่อให้น้ำไหลผ่านได้ เพื่อพืชได้ดูดซึมน้ำ แค่นี้ก้เป็นการสอนวิทยาศาสตรืให้กับเด็กปฐมวัยแล้ว

ภาพที่ 4 (ฝังลูกนิมิตร)
ภาพนี้เป็นการสอนวิทยาศาสตร์ให้กับเด็กในเรื่อง ของแข็ง ระดับ

จากภาพทั้ง 4 ภาพจะบอกว่า วิทยาศาสตร์เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นในชีวิตประจำวัน เป็นธรรมชาติสิ่งที่อยู่รอบๆตัวเรา

เกล็ดคำถามจาก (Power Point)

เด็กปฐมวัย Vs การเรียนวิทยาศาสตร์

-วิทยาศาสตร์เป็นยาขมสำหรับเด็กปฐมวัยหรือไม่?
 ไม่จริง เพราะ สิ่งที่อยู่ใกล้ตัวเด็กเป็นสิ่งที่เด็กอยากรู้อยากเห็น พัฒนาการเป็นตัวบ่งบอกว่าเด็กสามารถทำอะไรได้บ้าง

- ถ้าเด็กเรียนวิทยาศาสตร์ตั้งแต่ชั้นอนุบาลจะอยากไปไหม?
  ไม่ยาก เพราะวิทยาศาสตร์เป็นสิ่งที่อยู่รอบๆตัวเด็ก

- ควรจะให้เด็กอนุบาลเรีนรู้วิทยาศาสตร์อย่างไร?
  ให้เด็กเรียนรู้จากประสบการณ์จริง โดยการรให้เด็กลงมือทดลองทำด้วนตนเอง จะทำให้เด็กมีประสบการณ์ในการจำสิ่งนั้นๆได้ง่าย

อาจารย์ให้สรุปสิ่งที่เรียนเป็น map

แผงผังความคิดของดิฉัน



ความรู้ที่จะนำไปประยุกต์ใช้
 เรื่องการเขียน map ที่ถูกวิธี ว่าควรเขียนอย่างไร เราควรไตร่ตรองความคิดออกมาว่าสิ่งที่เราเรียน วันนี้เราเรียนอะไร ความหมาย วิธีการ พัฒนาการ  การไปประยุกต์ใช้ เทคนิคการสอน ว่าเราควรเรียบเรียงคำพูดหรือวิธีการเขียนอย่างไรและสามารถนำสิ่งที่อาจารย์บอกไปประยุกต์ใช้ในการเขียน map ของเราต่อไป

ประเมินตนเอง
  
 มาเรียนตรงต่อเวลา แต่งกายเรียบร้อยถูกระเบียบ ตั้งใจฟังและจดบันทึกในสิ่งที่อาจารย์สอน

ประเมินเพื่อน 

แต่งกายเรียบร้อย   ทุกคนมีความตั้งใจเรียนสนใจในสิ่งที่อาจารย์สอน


วันอังคารที่ 19 สิงหาคม พ.ศ. 2557

บันทึกอนุทิน ครั้งที่ 1

วิชา การจัดประสบการณ์ทางวิทยาศาสตร์สำหรับเด็กปฐมวัย
ครูผู้สอน อาจารย์จินตนา สุขสำราญ
วันอังคารที่ 19 สิงหาคม พ.ศ.2557
เวลาเรียน 08.30 - 12.20 น.
สิ่งที่ได้รับในวันนี้

อาจารย์ได้แจก Course syllabus แนวการสอนในรายวิชาการจัดประสบการณ์ทางวิทยาศาสตร์สำหรับเด็กปฐมวัย ได้อธิบายความหมายความสำคัญ แนวคิด ทฤษฎี หลักการทางวิทยาศาสตร์ และบอกข้อตกลงภายในห้องเรียน
ข้อตกลงภายในห้องเรียน
-เข้าเรียนตรงต่อเวลา ไม่เข้าเรียนสาย
-แต่งตัวให้เรียบร้อยให้เหมือนกันจะใส่ชุดนักศึกษาก็ให้เป็นชุดนักศึกษาทั้งห้องใส่เสื้อเอกสีชมพูก็ขอให้ใส่ทั้งห้องไม่มาเป็นด่างๆ (ตกลงกันใส่เสื้อเอกสีชมพู)
-การพูดจาต้องพูดจาให้ไพเราะอ่อนหวาน

ผลลัพธ์การเรียน
  หลังจากการศึกษารายวิชานี้แล้ว ผู้เรียนมีพฤติกรรมดังนี้

1.ด้านคุณธรรม จิยธรรม
- มีความสื่อสัตร์ สุจริตและเสียสละ
- มีวินัย ตรงต่อเวลา และมีความรับผิดชอบต่อตนเองและสังคม
- เคารพสิทธิและรับฟังความคิดเห็นของผู้อื่น
- ปฏิบัติตนสอดคล้องกับจรรยาบรรณครูปฐมวัย

2.ด้านความรู้   (เนื้อหาของเรื่องนั้นๆ)
- อธิบายหลักการ ความสำคัญ แนวคิด ทฤษฏีที่เกี่ยวข้องกับทักษะทางวิทยาศาสตร์ได้
- วิเคราะห์และเลือกจิตวิทยาการเรียนรู้ที่สนับสนุนการจัดประสบการณ์ทางวิทยาศาสตร์สำหรับเด็กปฐมวัยได้อย่างเหมาะสม
- อธิบายสาระการเรียนรู้และทักษะทางวิทยาศาสตร์สำหรับเด็กปฐมวัยได้
- วิเคราะห์และเลือกรูปแบบการจัดประสบการณ์ทางวิทยาศาสตร์สำหรับเด็กปฐมวัยได้

3.ด้านทักษะทางปัญญา
- คิดและวางแผนการทำงานอย่างเป็นระบบ
- ประยุกต์ความรู้เพื่อนำไปใช้การออกแบบและวางแผนการจัดประสบการณ์วิทยาศาสตร์สำหรับเด็กปฐมวัยได้อย่างสร้างสรรค์
- สรุปองค์ความรู้จากปัญหาและความต้องการนำไปพัฒนาการจัดประสบการณ์วิทยาศาสตร์สำหรับเด็กปฐมวัยได้

4.ด้านทักษะความสามารถระหว่างบุคคลและความรับผิดชอบ
- ใช้ภาษาไทยในการสื่อสาร และนำเสนอได้อย่างถูกต้องเหมาะสมและมีประสิทธฺภาพ
- ให้ความร่วมมือ ช่วยเหลือ และแก้ไขเมื่อพบปัญหา
- แสดงบทบาทผู้นำ และผู้ร่วมทีมทำงานได้อย่างเหมาะสม
- รับผิดชอบในผลงานตัวเองและกลุ่ม

5.ด้านทักษะวิเคราะห์เชิงตัวเลข การสื่อสารและการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ
- มีทักษะการใช้เครื่ิองมือที่จำเป็นในปัจจุบันเพื่อการศึกษาค้นคว้า และการเรียนรู้ประสบการณ์ในการเรียนวิชาการจัดประสบการณ์วิทยาศาสตร์สำหรับเด็กปฐมวัยได้อย่างเหมาะสม
- สามารถสื่อสารอย่างมีประสิทธิภาพทั้งด้านการฟัง การพูด การอ่าน การเขียน พร้อมทั้งเลือกใช้รูปแบบของสื่อมานำเสนอได้อย่างเหมาะสม
- สามารถใช้เทคโนโลยีเพื่อการสืบค้น การนำเสนออย่างมีประสิทธิภาพ

6. ด้านการจัดการเรียนรู้
- วางแผน ออกแบบ ปฏิบัติการสอน การวัดการประเมินผลการเรียนรู้ เพื่อพัฒนาศักยภาพของผู้เรียนได้อย่างเหมาะสมตามความแตกต่างของแต่ละบุคคล
- เรียนรู้ผ่านประสบการณ์ตรง เช่น การศึกษากรณีตัวอย่างจากห้องเรียน


สิ่งที่อาจารย์มอบหมายให้ทำ
   
การสร้างบล็อกต้องมีองค์ประกอบดังนี้ 

 ชื่อและคำอธิบายบล็อก
 - รูปและข้อมูลผู้สอน
 - ปฎิทินและนาฬิกา
 - เชื่อมโยง บล็อกอาจารย์ผู้สอน 
หน่วยงาน
สนับสนุน 
แนวการสอน 
งานวิจัยด้านคณิตศาสตร์
บทความ
สื่อ( เพลง เกม นิทาน แบบฝึกหัด  ของเล่น )  
 
แนวทางการเขียนอนุทินเพื่อบันทึกหลังเรียน

ความรู้ที่จะนำไปประยุกต์ใช้

 - สามารถนำความรู้ที่อาจารย์สอนมาใช้ในการพัฒนาความรู้เกี่ยวกับงานวิจัยได้
 - สามารถสร้างบล็อกได้ถูกต้อง ตามคำแนะนำของอาจารย์สอนสามารถนำมาออกแบบตามความคิดสร้างสรรค์ของเราเอง และสารมารถนำเทคโนโลยีมาใช้ได้ถูกต้องและเหมาะสมกับรายวิชาการจัดประสบการณ์วิทยาศาสตร์สำหรับเด็กปฐมวัย

ประเมินตนเอง
  
แต่งกายเรียบร้อย มาเรียนตรงต่อเวลา ฟังที่ครูอธิบายอย่างตั้งใจ

ประเมินเพื่อน 

แต่งกายเรียบร้อย  สะอาด  ตั้งใจเรียน  มารยาทงาม


สาระเพิ่มเติม


มคอ. มาตรฐานการศึกษาระดับอุดมศึกษา